30 ธันวาคม 2552

แผนการสอน

แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 1
กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาต่างประเทศ ช่วงชั้นที่ 1 ชั้นประถมศึกษาปีที่ 1
หน่วยการเรียนรู้ที่ 1 เรื่อง Alphabet ( เวลา 11 ชั่วโมง )
แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 1 เรื่อง Alphabet A-I ( เวลา 3 ชั่วโมง )

1.
มาตรฐานการเรียนรู้
ต 1.1. เข้าใจและตีความเรื่องที่ฟังและอ่านจากสื่อประเภทต่าง ๆ และแสดงความคิดเห็นอย่างมีเหตุผล
1.2. เข้าใจความเหมือนและความแตกต่างระหว่างภาษาและวัฒนธรรมของเจ้าของภาษากับภาษาและวัฒนธรรมไทย และนำมาใช้อย่างถูกต้องและเหมาะสม

2.
ตัวชี้วัด
1.1 ป.1/2 ระบุตัวอักษรและเสียง อ่านออกเสียงและสะกดคำง่าย ๆ ถูกต้องตามหลักการอ่าน
2.2 ป.1/1 ระบุตัวอักษรและเสียงตัวอักษรของภาษาต่างประเทศและภาษาไทย

3
. สาระสำคัญ
ตัวอักษรในภาษาต่างประเทศมีการเขียนและอ่านออกเสียงที่แตกต่างกับภาษาไทย

4.
สาระการเรียนรู้
4.1. ตัวอักษรพิมพ์ใหญ่ A - I
4.2. ตัวอักษรพิมพ์เล็ก a - i
4.3. เสียงตัวอักษร A - I

5
.
จุดประสงค์การเรียนรู้
1. นักเรียนสามารถเขียนตัวอักษร A - I ได้อย่างถูกต้อง
2. นักเรียนสามารถอ่านตัวอักษร A - I ได้อย่างถูกต้อง
3.นักเรียนสามารถระบุตัวอักษร A - I ได้อย่างถูกต้อง

6
. ภาระชิ้นงาน
6.1 ใบงานที่ 1.1 - 1.9

เทคโนโลยีใหม่ ๆ ที่น่าสนใจ

Black Rogue เกมส์ออนไลน์ใหม่จากค่าย INI3 เปิดตัวแล้ว
!!! อินิทรี ดิจิตอล จับมือ Joy Max จัดงานแถลงข่าวเซ็นต์สัญญาเปิดตัวเกมใหม่ Black Rogue
พร้อมตอกย้ำความเป็นผู้ให้บริการเกมคุณภาพอันดับหนึ่งของเมืองไทย….!!!


บริษัท อินิทรี ดิจิตอล จำกัด ผู้ให้บริการเกมออนไลน์คุณภาพชั้นแนวหน้าของเมืองไทย หลังจากสร้างปรากฎการณ์กระแส Casual ครองเมืองมาแล้วกับเกม Pangya ที่มีผู้เล่นเป็นแฟนพันธุ์แท้ทั่วประเทศมากกว่า 6 ล้านคน ตามมาด้วยการก้าวขึ้นเป็นผู้นำด้านการให้บริการเกมออนไลน์ที่ดีที่สุดในประเทศไทย วันนี้ บริษัท อินิทรี ดิจิตอล จำกัด พร้อมแล้วกับการก้าวขึ้นเป็นผู้นำอีกครั้งด้วยเกม MMORPG เกมใหม่ล่าสุดเกมที่ 6 Black Rogue เกม MMORPG รูปแบบใหม่ที่ผู้เล่นจะต้องสวมบทบาทเป็นโร้ค ออกผจญภัยไปในโลกของดินแดนประวัติศาสตร์ที่มีอารยธรรมยาวนานกว่า 3,000 ปี โดยที่ผู้เล่นสามารถเลือกหนทางของตัวเองได้เองอย่างอิสระว่าจะเป็น ฮีโร่ผู้ทรนง, พ่อค้าผู้รำรวย หรือ นักล่าในรัตติกาล

และเมื่อวันอังคารที่ 16 มิถุนายน 2552 ณ บริเวณ ร้าน Warp ชั้น 7 โซน Centerpoint ศูนย์การค้า Central World บริษัท อินิทรี ดิจิตอล จำกัด ได้จัดงานแถลงข่าวเซ็นต์สัญญาเปิดตัวเกมออนไลน์เกมที่ 6 Black Rogue สุดยอดเกม MMORPG ที่มีจุดเด่นและเอกลักษณ์เฉพาะตัวที่ไม่เหมือนใครอย่างเป็นทางการขึ้น เพื่อตอกย้ำความเป็นผู้ให้บริการเกมออนไลน์คุณภาพ พร้อมทั้งเปิดตัวสู่การบุกตลาด MMORPG ด้วยทีมงานมืออาชีพที่มีความพร้อมทุกด้านอย่างเต็มตัว อีกทั้งยังคงชูนโยบายหลักของบริษัทเรื่องการต่อต้านโปรแกรมช่วยเล่นทุกรูปแบบเพื่อให้เกมเมอร์ไทยวางใจได้ว่า Black Rogue จะปราศจากบอทแน่นอน 100%



ภายในงานทีมงานได้จำลองบรรยากาศความเป็น Black Rogue ออกมาด้วยธีมในโทนสีดำ และยังได้จำลองภาพของจุดเด่นที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะของเกม Black Rogue ออกมาเพื่อให้ผู้มาร่วมงานได้สัมผัสกันอย่างใกล้ชิด ไม่ว่าจะเป็น ตัวละครสายอาชีพโร้คทั้ง 3 สายอาชีพ (Hunter Rogue, Merchant Rogue, Killer Rogue), อาวุธในตำนานของประวัติศาสตร์ยุโรปและเอเชีย, เรื่องราวความเป็นมาของเส้นทางสายไหม เป็นต้น

และเมื่อถึงเวลาอันสมควร พิธีกร ก็ได้กล่าวเชิญทุกท่านเข้าสู่การแถลงข่าวเซ็นต์สัญญาเปิดตัวเกม Black Rogue เกมออนไลน์ตัวใหม่ล่าสุดของ บริษัท อินิทรี ดิจิตอล จำกัด ซึ่งบรรยากาศเป็นไปอย่างอบอุ่นและเป็นกันเอง โดยมีการเชิญ คุณภัทธีรา อภิธนาคุณ (Managing Director) ของ บริษัท อินิทรี ดิจิตอล จำกัด ขึ้นกล่าวเปิดงานอย่างเป็นทางการ และเชิญ Mr.John Chan Woong Jeon (CEO&Founder) ของ บริษัท Joy Max ขึ้นมาพูดคุยคร่าวๆ ถึงเกม Black Rogue ทั้งนี้ Mr.John Chan Woong Jeon ยังได้ถือโอกาสพูดถึงบริษัท Joy Max และผลงานต่างๆ ที่ผ่านมาเพื่อแนะนำให้สื่อมวลชนและแขกผู้มีเกียรติได้ทำความรู้จักกับ Joy Max ให้มากขึ้นอีกด้วย จากนั้นผู้บริหารทั้ง 2 บริษัทจึงร่วมลงนามเซ็นต์สัญญาอย่างเป็ททางการ ท่ามกลางสื่อมวลชนและแขกผู้มีเกียรติที่มาร่วมงานเป็นสักขีพยานกันอย่างคับคั่ง



จากนั้น คุณศักดิ์ศิริ จามพันธ์ (CRM Director) ของอินิทรี ได้ขึ้นมาพูดคุยถึงจุดเด่นสำคัญและความเป็น Black Rogue ที่ไม่มีใครเหมือน พร้อมทั้งร่วมตอบคำถามให้กับสื่อมวลชนและแขกผู้มีเกียรติอย่างเป็นกันเอง ปิดท้ายด้วยการทิ้งปริศนากำหนดการวัน Close Beta ของเกมเอาไว้ ให้สื่อมวลชนและแขกผู้เกียรติทุกท่านได้เตรียมพร้อมเข้าสู่โลกของBlack Rogue ก่อนที่พิธีกรจะกล่าวปิดงานและเชิญสื่อมวลชนถ่ายภาพผู้บริหารของทั้ง 2 บริษัท
เตรียมพร้อมสัมผัสความเป็น MMORPG ที่ดีที่สุดและโลดแล่นไปในโลกของโร้คที่คุณ…คือผู้ที่เลือกทางเดินของตัวเองได้อย่างใจต้องการด้วยกันเร็วๆนี้แน่นอน !!

27 ธันวาคม 2552

สถานที่ท่องเที่ยว อำเภอฝาง





สถานีเกษตรโครงการหลวงอ่างขาง

สืบเนื่องมาจากพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว พร้อมด้วยสมเด็จพระนางเจ้าพระบรมราชินีนาถ ได้เสด็จพระราชดำเนินเยี่ยมราษฎรที่หมู่บ้านผักไผ่ อ.ฝาง จ.เชียงใหม่ และได้เสด็จผ่านบริเวณดอยอ่างขาง ทรงทอดพระเนตรเห็นว่าชาวเขาเผ่ามูเซอซึ่งในสมัยนั้นยังไว้แกละถักเปียยาว แต่งกายสีดำ สะพายดาบ ทำการปลูกฝิ่นแต่ยังยากจน ทั้งยังทำลายทรัพยากรป่าไม้ ต้นน้ำลำธารที่เป็นแหล่ง สำคัญต่อระบบนิเวศน์ ซึ่งจะก่อให้เกิดความเสียหายต่อส่วนอื่น ๆ ของประเทศได้

จึงทรงมีพระราชดำริว่าพื้นที่นี้มีภูมิอากาศที่หนาวเย็นมีการปลูกฝิ่นมาก ไม่มีป่าไม้อยู่เลยและสภาพพื้นที่ไม่ลาดชันนัก ประกอบกับพระองค์ทรงทราบว่าชาวเขาได้เงินจากฝิ่นเท่ากับที่ได้จากการปลูกท้อพื้นเมือง และทรงทราบว่าที่สถานีทดลองไม้ผลเมืองหนาว ของ
มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์
ได้ทดลองวิธีติดตา ต่อกิ่งกับท้อฝรั่ง จึงสละพระราชทรัพย์ส่วนพระองค์จำนวน 1,500 บาท เพื่อซื้อที่ดินและไร่ในบริเวณดอยอ่างขางส่วนหนึ่ง จากนั้นจึงโปรดเกล้าฯ ตั้งโครงการหลวงขึ้นเป็นโครงการส่วนพระองค์

เมื่อ พ.ศ. 2512 โดยทรงแต่งตั้งให้
หม่อมเจ้าภีศเดช รัชนี
เป็นผู้สนองพระบรมราชโองการในตำแหน่งมูลนิธิโครงการหลวงใช้เป็นสถานีวิจัย และทดลองปลูกพืชเมืองหนาวชนิดต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นไม้ผล ผัก ไม้ดอกเมืองหนาว เพื่อเป็นตัวอย่างแก่เกษตรกรชาวเขา ในการนำพืชเหล่านี้มาเพาะปลูกเป็นอาชีพ ซึ่งต่อมาพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ ได้พระราชทานนามว่า "สถานีเกษตรหลวงอ่างขาง"
คำว่า “ อ่างขาง ” ในภาษาเหนือหมายถึง อ่างรูปสี่เหลี่ยมตามลักษณะของดอยอ่างขาง
ซึ่งเป็นดอยที่มีรูปร่างของหุบเขายาวล้อมรอบประมาณ 5 กิโลเมตร กว้าง 3 กิโลเมตร ตรงกลางของอ่างขางเดิมเป็นภูเขาสูงเช่นเดียวกับบริเวณโดยรอบ แต่เนื่องจากเป็นภูเขาหินปูนเมื่อถูกน้ำฝนชะก็จะค่อย ๆ ละลายเป็นโพรงแล้วยุบตัวลงกลายเป็นแอ่งมีพื้นที่ราบ ความกว้างไม่เกิน 200 เมตร ซึ่งเป็นที่ตั้งของสถานีเกษตรหลวงอ่างขาง

“ อ่างขางวันนั้นสวยมากด้วยดอกฝิ่นและภูมิประเทศ เราได้เห็นต้นท้อ แอ๊ปเปิ้ลป่าและทราบว่าอากาศหนาวเราได้คุยกับผู้ที่ไปตั้งร้านขายของซื้อฝิ่นเขาขึ้นมาอีกทางหนึ่งห่างจากค่ายทหารจีนโดยที่ชาวเขาส่วนมากอพยพไปที่อื่นอ่างขางจึงมีที่เหลือให้หญ้าคาขึ้นอยู่มาก ด้วยเหตุนี้จึงโปรดเกล้าฯให้ตั้งสถานีเกษตรหลวงอ่างขางขึ้นเมื่อ 30 ปี มานี้ สถานีเกษตรหลวงอ่างขางได้ทำวิจัยได้ ” ม.จ. ภีศเดช รัชนี ประธานมูลนิธิโครงการหลวง กล่าว


สถานที่ตั้ง สภาพอากาศ ประชากร
สถานีเกษตรหลวงอ่างขางตั้งอยู่ในเขตหมู่บ้านคุ้มหมู่ที่ 5 ต.แม่งอน อ.ฝาง จ.เชียงใหม่ พิกัด NC 049010 (เส้นละจิจูด) Lat 19’C 54 ลิปดา 32 ฟิลิบดาเหนือ (เส้นลองจิจูด) Long 99’C 02 ลิปดา 50 ฟิลิบดา E อยู่สูงจากระดับน้ำทะเลประมาณ 1,400 เมตรมีพื้นที่ใช้ ทำการเกษตรในงานวิจัยประมาณ 1,800 ไร่ มีหมู่บ้านชาวเขาที่ทางสถานีฯให้การส่งเสริมและพัฒนาอาชีพรวม 6 หมู่บ้าน ได้แก่ บ้านหลวง บ้านคุ้ม บ้านนอแล บ้านปางม้า บ้านป่าคา และบ้านขอบด้ง ซึ่งประกอบไปด้วยประชากร 4 เผ่าได้แก่ ไทยใหญ่ มูเซอดำ ปะหล่อง และจีนฮ่อ อุณหภูมิเฉลี่ยตลอดปีประมาณ 17.7 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 32 องศาเซลเซียสในเดือนเมษายน และอุณหภูมิต่ำสุด –3 องศาเซเซียสในเดือนมกราคม ปริมาณน้ำฝนเฉลี่ย 2,075 มิลลิเมตรต่อปี


วัตถุประสงค์ของสถานี
1. เป็นสถานีดำเนินงานวิจัยหลักของโครงการวิจัยต่างๆโดยเฉพาะงานวิจัยไม้ผลเขตหนาว งานวิจัยป่าไม้ และงานเกษตรที่สูง

2. เป็นสถานที่ฝึกอบรมและเผยแพร่ผลงานแก่เจ้าหน้าที่และเกษตรกร

3. ดำเนินการส่งเสริมและพัฒนาอาชีพแก่เกษตรกรชาวเขาในหมู่บ้านรอบๆสถานี


การดำเนินงานของสถานี
1. งานศึกษาวิจัยสถานีเกษตรหลวงอ่างขางตั้งอยู่ในพื้นที่ที่มีอากาศเย็นตลอดปี ดังนั้นจึงเป็นสถานีหลักในการศึกษาวิจัยไม้ผลเขตหนาวของโครงการหลวงโดยสถานีเกษตรหลวงอ่างขางได้ดำเนินการศึกษาวิจัย และขยายพันธุ์พืชชนิดต่างๆได้แก่
1.1 งานรวบรวมและศึกษาพันธุ์ไม้ผลเขตหนาวชนิดต่างๆ เช่น พีช สาลี่ พลับ พลัม บ๊วย กีวี และสตรอเบอรี่

1.2 งานศึกษาพันธุ์ไม้โตเร็วชนิดต่างๆและไผ่ต่างๆสำหรับใช้ปลูกทดแทนป่าไม้ที่ถูกทำลาย เช่น ไม้โตเร็ว กระถินดอย เมเปิลหอม และไผ่หวานอ่างขาง ฯลฯ

1.3 งานศึกษาและทดสอบพันธุ์ไม้ตัดดอก เช่น กุหลาบ ฟรีเซีย ไม้หัวและไม้ดอกกระถาง

1.4 งานศึกษาและรวบรวมพันธุ์พืชสมุนไพร พืชผักเมืองหนาวชนิดต่างๆ

1.5 งานศึกษาพืชชนิดต่างๆ ได้แก่ ข้าวสาลี และ ลินิน
2. งานเผยแพร่และฝึกอบรม เนื่องจากสถานีเกาตรหลวงอ่างขางเป็นแหล่งทางวิชาการปลูกพืชบนที่สูงที่สำคัญของประเทศ ในแต่ละปีจะใช้เป็นสถานที่ฝึกอบรมแก่เจ้าหน้าที่และเกษตรกรของมูลนิธิฯ จำนวนมากประกอบกับมีผู้สนใจจากองค์กรและสถาบันต่างๆเข้าเยี่ยมชมและดูงาน มูลนิธิโครงการหลวงจึงได้จัดสร้างอาคารฝึกอบรมและเผยแพร่ งานของโครงการหลวงในด้านต่างๆให้แก่เกษตรกรและเจ้าหน้าที่โครงการหลวง ส่วนราชการ ผู้สนใจ และประเทศเพื่อนบ้าน โดยได้เปิดอย่างเป็นทางการในวันที่ 1 ธันวาคม 2540
3. งานพัฒนาและส่งเสริมอาชีพแก่เกษตรกรเป็นการดำเนินงานส่งเสริม และพัฒนาอาชีพแก่เกษตรกรชาวเขาบริเวณรอบ ๆ สถานีฯซึ่งเป็นชาวเขาเผ่าต่างๆ รวม 4 เผ่า ได้แก่ ปะหล่อง มูเซอ ไทยใหญ่ และจีนฮ่อ โดยมีส่วนราชการต่าง ๆ ร่วมดำเนินงานในรูปคณะทำงานศูนย์พัฒนาโครงการหลวง กิจกรรมที่สำคัญได้แก่ การพัฒนาแหล่งน้ำ การวางแผน การใช้ที่ดิน การส่งเสริมการปลูกไม้ผล ผัก ชา การฟื้นฟูระบบนิเวศ การฟื้นฟูสภาพธรรมชาติ และการปลูกป่าชาวบ้าน


ผลสำเร็จของสถานีเกษตรหลวงอ่างขาง

ปัจจุบันสถานีฯอ่างขางมีชื่อเสียงและเป็นที่รู้จักอย่างแพร่หลายในด้านงานศึกษาวิจัยพืชเมืองหนาวชนิดต่าง ๆ จึงเป็นแหล่งเผยแพร่ความรู้ด้านเกษตรที่สูง การฟื้นฟูป่าไม้ในพื้นที่ของสถานีเกษตรหลวงอ่างขาง รวมทั้งพื้นที่สูงอื่นๆ อีกทั่วไป ดังนั้นสถานีฯอ่างขางจึงเป็นสถานที่ที่ส่วนราชการ สถาบันการศึกษา และองค์กรต่าง ๆ รวมทั้งนักท่องเที่ยวชาวไทยและชาวต่างประเทศขึ้นไปเยี่ยมชมกิจกรรมของสถานีฯ เป็นจำนวนมากอย่างต่อเนื่อง ในส่วนของเกษตรกรชาวเขาบริเวณรอบๆสถานีฯสามารถประกอบอาชีพการเกษตรจากการปลูกไม้ผล ไม้ตัดดอก และพืชผัก ซึ่งทำให้เกษตรกรชาวเขาเหล่านี้มีวิถีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น โดยปัจจุบันเกษตรกรเหล่านี้สามารถช่วยตัวเองได้มากยิ่งขึ้น โดยเริ่มเข้าเป็นสมาชิกของธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร ในการเป็นแหล่งทุนสำหรับปัจจัยการผลิตเช่นเดียวกับเกษตรกรทั่วไป และในปัจจุบันสถานีฯยังได้ส่งเสริมอาชีพนอกภาคการเกษตรให้แก่เกษตรกรชาวเขาในด้านงานหัตถกรรมอีกด้วย
นอกจากนี้เกษตรกรชาวเขาที่สถานีฯอ่างขาง ยังได้ชื่อว่าเป็นผู้ร่วมให้การอนุรักษ์และฟื้นฟูป่าได้ดีมากทำให้ป่าต้นน้ำลำธารได้รับการฟื้นฟูอยู่ในสภาพที่ดีขึ้น รวมทั้งปัจจัยพื้นฐานต่างๆ เช่น ถนน ไฟฟ้า โทรศัพท์ แหล่งน้ำ ก็ได้รับการปรับปรุงและพัฒนาให้ดีขึ้นตามลำดับ

เส้นทางศึกษาธรรมชาติ
เส้นทางศึกษาธรรมชาติของสถานีเกษตรหลวงอ่างขางนั้นเป็นเส้นทางที่กำหนดขึ้นบริเวณรอบสถานี ซึ่งมีเส้นทางทั้งหมด 10 เส้นทางด้วยกันและต้นไม้ที่ปลูกในเส้นทางเดินศึกษาธรรมชาตินั้นจะเป็นต้นไม้ที่นำเข้ามาจากประเทศไต้หวันทั้งหมด โดยจะขอแนะนำเส้นทางทั้งหมดตามลำดับดังนี้

ซอยดงกระถินดอย
จะเริ่มต้นเส้นทางบริเวณหลังพระตำหนัก และระยะทางโดยรวมของเส้นทางนี้ประมาณ 200 เมตร ไม้หลักที่ปลูกจะเป็นต้นเมเปิ้ลหอม ต้นกระถินดอย และต้นจันทร์ทอง

ซอยสวนป่าผสม
เป็นเส้นทางที่ต่อเนื่องมาจากซอยดงกระถินดอย ไม้หลักที่ปลูกจึงเป็นประเภทเดียวกันระยะทางซอยนี้ ประมาณ 1,650 เมตร

ซอยสาม พ.ศ.
จะเชื่อมต่อทางมาจากซอยสวนป่าผสม ไม้หลักที่ปลูกนอกจากจะเป็นชนิดเดียวกับซอยดงกระถินดอยและซอยสวนป่าผสมแล้ว ไม้อีกชนิดที่ปลูกเฉพาะเส้นทางนี้ คือ ต้น Zelkova ระยะทางโดยรวมคือ 1,100 เมตร

ซอยสนหนามบน และ ซอยสนหนามล่าง
สนหนามจะเป็นไม้หลักที่ปลูกในสองเส้นทางนี้ระยะทางของ ซอยสนหนามบนจะประมาณ 730 เมตร ส่วน ซอยสนหนามล่างจะมีระยะทาง 970 เมตร

ซอยสนซูงิ
เส้นทางนี้จะมีสนซูงิปลูกเป็นไม้หลัก และมีระยทางโดยรวมประมาณ 550 เมตร

ซอยนางพญาเสือโคร่ง (ซากุระดอย)
จุดเริ่มต้นของเส้นทางนี้จะอยู่บริเวณด้านหลังสำนักงานของสถานีจะมีระยะทาง 530 เมตร และจะมีต้นนางพญาเสือโคร่งอยู่ตลอดเส้นทาง

ซอยสวนไผ่
จะเริ่มต้นเส้นทางบริเวณอ่างเก็บน้ำของสถานี ซึ่งมีไผ่หลายชนิดที่ปลูกตลอดเส้นทาง อาทิ ไผ่บงใหญ่ ไผ่ลวก และไผ่หมาจู๋ จะมีระยะทาง 670 เมตร

ซอยหุบผาขาว
ต้นไผ่จะเป็นไม้หลักที่ปลูกในเส้นทางนี้ และชื่อของซอยนี้จะเรียกตามลักษณะเส้นทางที่ต้องเดินผ่านถ้ำในสถานีที่ชื่อ ถ้ำหุบผาขาว ระยะทางของเส้นทางนี้ ประมาณ 1,100 เมตร

ซอยศูนย์สาธิตการใช้ไม้
เริ่มต้นเส้นทางจากด้านหลังศูนย์สาธิตการใช้ไม้สมพรสหวัฒน์ โดยจะผ่านแปลงการบูรแล้วเดินเรื่อยไปจนจดซอยสนหนามล่าง


ข้อมูลแหล่งท่องเที่ยวต่าง ๆ บริเวณรอบ ๆ สถานี
หมู่บ้านคุ้ม ตั้งอยู่ใกล้กับสถานีฯ เป็นชุมชนเล็กๆประกอบด้วยผู้อยู่อาศัยหลายเชื้อชาติอยู่รวมกัน อาทิชาวไทยใหญ่ ชาวพม่าและชาวจีนฮ่อ ซึ่งได้ตั้งถิ่นฐานอยู่ในบริเวณนี้และเปิดร้านค้าบริการแก่นักท่องเที่ยว

จุดชมวิวกิ่วลม
อยู่ทางด้านซ้ายมือก่อนถึงทางแยกซึ่งจะไปหมู่บ้านปะหล่องนอแลทางหนึ่ง และบ้านมูเซอขอบด้งทางหนึ่ง สามารถชมวิวได้ทั้งพระอาทิตย์ขึ้นและตก หรือทะเลหมอก มองเห็นทิวเขารอบด้านและหากฟ้าเปิดจะมองเห็นสถานีเกษตรหลวงอ่างขางด้วย

หมู่บ้านนอแล
ตั้งอยู่บริเวณชายแดนไทย - พม่า แต่เดิมคนกลุ่มนี้อยู่ในพม่าและพึ่งอพยพมาที่นี่ได้ประมาณ 15 ปี คนที่นี่เป็นชาวเขาเผ่าปะหล่องเชื้อสายพม่า ซึ่งมีภาษาและวัฒนธรรมเป็นของตนเอง นับถือศาสนาพุทธทุกวันพระผู้คนที่นี่หยุดอยู่บ้านถือศีล จากหมู่บ้านนี้สามารถมองเห็นทิวทัศน์สวยงามของธรรมชาติบริเวณพรมแดนไทย-พม่า

หมู่บ้านขอบด้ง
เป็นที่ที่ชาวเขาเผ่ามูเซอดำและเผ่ามูเซอแดงอาศัยอยู่ร่วมกัน คนที่นี่นับถือผีมีวัฒนธรรมและความเป็นอยู่อย่างเรียบง่าย หมู่บ้านแห่งนี้ได้รับการส่งเสริมจากโครงการหลวงในด้านการเกษตรและด้านหัตถกรรมพื้นบ้าน (เช่น อาบูแค เป็นกำไลถักด้วยหญ้าไข่เหามีสีสันและลวดลายในแบบของมูเซอ) บริเวณหน้าหมู่บ้านจะมีการจำลองบ้านและวิถีชีวิตของชาวมูเซอ โดยชาวบ้าน ครู และนักเรียนโรงเรียนบ้านขอบด้งช่วยกันสร้างขึ้นมาเพื่อให้ผู้ที่สนใจได้มีโอกาสเรียนรู้และศึกษาวัฒนธรรมของหมู่บ้านโดยที่ไม่เข้าไปรบกวนความเป็นส่วนตัวของเขามากเกินไป และยังมีโครงการมัคคุเทศก์น้อยที่อบรมเด็กนักเรียนโรงเรียนบ้านขอบด้งเพื่อช่วยอธิบายวิถีชีวิตของพวกเขาให้ผู้มาเยือน ทั้งนี้เพื่อเป็นการปลูกจิตสำนึกและสร้างความรักท้องถิ่นให้เด็ก ๆ ด้วย

หมู่บ้านหลวง
ชาวหมู่บ้านหลวงเป็นชาวจีนยูนานที่อพยพมาจากประเทศจีนในสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 และประกอบอาชีพด้านการเกษตรกรรมเป็นหลัก อาทิ ปลูกผักผลไม้ เช่น พลัม ลูกท้อ และสาลี่

26 ธันวาคม 2552

ประวัติส่วนตัว



ชื่อ - นามสกุล : นางสาวเจนจิรา สุขคำ

ชื่อเล่น : เจน

วันเกิด : 14 มีนาคม 2528

จบการศึกษา : สาขาคอมพิวเตอร์ธุรกิจ คณะบริหารธุรกิจ ( บธ.บ )

อาชีพ : พนักงานราชการ ตำแหน่ง : ครู

สถานที่ทำงาน : โรงเรียนบ้านลาน อำเภอฝาง จังหวัดเชียงใหม่

วิชาที่รับผิดชอบ : วิชา ภาษาอังกฤษ ระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 - 3
วิชา คอมพิวเตอร์ ระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 - 2
วิชา ลูกเสือ ระดับ ลูกเสือสำรอง

e-mail ติดต่อ : hinaka@hotmail.com